สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ
พระราชทานจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการเพื่อเป็นเกียรติกับประธานาธิบดีโดนัลด์
ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่เดินทางมาเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการเมื่อค่ำวันจันทร์ (3มิ.ย.)ที่พระราชวังบักกิ้งแฮมในกรุงลอนดอน
ในงานนี้
มีบุคคลระดับสูงเข้าร่วมงานหลายท่าน ซึ่งก็รวมถึงเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์
มกุฏราชกุมารอังกฤษ พร้อมด้วยพระชายา ดัชเชชแห่งคอร์นวอล ,
ดยุ๊คและดัชเชชแห่งเคมบริดจ์ รวมถึงนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซ่า เมย์
สมเด็จพระราชินีทรงตรัสชื่นชมมิตรภาพที่ใกล้ชิดและดำเนินมายาวนานระหว่างสองประเทศ
โดยเน้นว่าสิ่งที่เชื่อมโยง 2 ประเทศเข้าด้วยกันก็คือค่านิยมเรื่องเสรีภาพและประชาธิปไตย
รวมทั้งชื่นชมทหารสหรัฐที่มาช่วยอังกฤษสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะในสัปดาห์นี้จะมีพิธีรำลึกวันครบรอบ 75 ปีวันดีเดย์
ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ ได้กล่าวยกย่องชื่นชมสมเด็จพระราชินีว่าเป็นสุภาพสตรีที่ยิ่งใหญ่
จากการที่รักษาความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศมายาวนานเกือบ 70 ปี ที่เขาบอกว่า 2 ประเทศมีความผูกพันเพราะมีค่านิยมที่เหมือนกันอย่างเช่นเรื่องอิสรภาพ
อธิปไตย การกำหนดชะตาชีวิตของตนเอง และหลักนิติธรรม
อย่างไรก็ตาม
ก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์ จะเดินทางเยือนกรุงลอนดอนอย่างเป็นทางการ
เขาได้จุดชนวนให้เกิดความขุ่นเคืองในหมู่ชาวอังกฤษบางส่วน
หลังจากที่ได้ให้สัมภาษณ์ในทำนองสนับสนุนนายบอริส จอห์นสัน อย่างเปิดเผย
เพื่อให้เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษแทน เธเรซ่า เมย์ ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งในวันที่
7 มิ.ย.นี้
นอกจากนั้น
ยังแสดงท่าทีสนับสนุน ไนเจล ฟาราจ หัวหน้าพรรคเบร็กซิท
ให้เป็นผู้นำการเจรจาเพื่อแยกอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปให้ลุล่วงโดยเร็ว
และบอกด้วยว่าอาจพบหารือกับนายจอห์นสันและนายฟาราจระหว่างการเยือนอังกฤษครั้งนี้
นักวิเคราะห์หลายคนมีความเห็นว่าการที่ปธน.ทรัมป์
แสดงท่าทีสนับสนุนนายจอห์นสันและนายฟาราจ
ผู้ที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการผลักดันให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป
ถือเป็นการกระทำผิดธรรมเนียมทางการทูตระหว่างประเทศ
หรืออาจเข้าข่ายแทรกแซงการเมืองภายในของประเทศอื่นได้ โดยเฉพาะในช่วงที่อังกฤษกำลังเกิดความวุ่นวายในประเด็นเรื่องเบร็กซิท
แก้ไขล่าสุด ( วันอังคารที่ 04 มิถุนายน 2019 เวลา 06:59 น. )